Review กล้องอินฟาเรดจับความร้อน HKLE10

สวัสดีครับสำหรับบทความรู้นี้เรายังอยู่กันที่ความสามารถของกล้องอินฟาเรดอยู่ หากผู้ที่เข้ามาอ่านใหม่และยังไม่ทราบว่ากล้องอินฟาเรดมีแบบไหนบ้างก็สามารถย้อนดูบทความเก่าๆ ได้ครับ อย่างที่ทราบกันดีว่ากล้องอินฟาเรดนั้นมีหลากหลายรูปแบบการใช้งานมากๆ มีตั้งแต่กล้องสำหรับวัดอุณหภูมิไปจนถึงกล้องอินฟาเรด IR สำหรับใช้งานตอนกลางคืน ทั้งนี้ก็ตามแต่ผู้ที่ต้องการใช้งานเลือกกล้องอินฟาเรดแต่ละแบบ แต่ในบทความนี้เราจะมารีวิวกล้องอินฟาเรดจับความร้อนรุ่น HKLE10 ของ Sport Camera ซึ่งทางแอดมินได้ทดลองใช้รุ่นนี้แล้วก็สามารถเห็นผลในการใช้งานได้ดีมาก แม้ตอนกลางคืนก็สามารถแยกแยะคนกับสิ่งของได้อย่างดีเยี่ยม เรามาดูกันว่าภาพที่ได้จะแตกต่างกับสิ่งที่เราเห็นจริงแค่ไหน

Review กล้องอินฟาเรดจับความร้อน HKLE10

กล้องอินฟาเรดจับความร้อนรุ่น LE1

คุณสมบัติกล้อง

  • รองรับการจับคลื่นความร้อนระดับ 12 um
  • ใช้งานต่อเนื่อง 8 ชม. ชาร์จไฟในตัว
  • กำลังขยาย 1-8X
  • ขนาดหน้าจอแสดงผล 256×192
  • รองรับการเชื่อมต่อ wifi ผ่าน APP มือถือ
  • น้ำหนักเพียง 260 กรัม พกพาง่าย
  • กันน้ำระดับ IP67 ตัวกล้องกันน้ำ กันฝน
  • ถ่ายรูปและวิดีโอได้ในตัว

กล้องอินฟาเรดจัความร้อนรุ่นนี้ถือว่าเป็นกล้องระดับกลางที่สามารถจับความร้อนไว้ในระดับความละเอียดสูง สามารถใช้งานผ่านมือถือได้โดยการปล่อยสัญญาณ WIFI โดยใช้ APP มือถือควบคุมกล้อง มีหน้าจอแสดงผลในตัวกล้องสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อ APP มีกำลังขยายตั้งแต่ 1 เท่าไปจนถึง 8 เท่า ซึ่งกล้องรุ่นนี้เหมาะกับการสำรวจหรือค้นหาคนสูญหายในป่าหรือค้นหาสัตว์เลี้ยงหายไปแถวบ้าน

กล้องอินฟาเรดจับความร้อนรุ่น LE1 ถ่ายภาพตอนกลางคืน

สามารถปรับโมตความคมชัดได้หลายระดับและปรับโมตการมองกลางคืนได้ดี จากภาพจะแสดงให้เห็นว่ากล้องอินฟาเรดรุ่นนี้สามารถส่องตอนกลางคืนได้ด้วยซึ่งจะแสดงภาพเป็นจับความร้อนตามภาพที่แสดง

กล้องอินฟาเรดจับความร้อนถ่ายภาพแมว

เหมาะสำหรับสำรวจสิ่งผิดปกติรอบบ้านและสวน สามารถพกพาออกนอกบ้านได้อย่างง่ายดายโดยสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงในการชาร์จ 1 ครั้ง อีกทั้งน้ำหนักตัวกล้องนั้นเบามากจึงทำให้พกพาออกไปสำรวจได้ง่ายมาก

รีวิวกล้องอินฟาเรดถ่ายภาพคนตอนกลางคืน

จากภาพตัวอย่างจะเห็นได้ว่าการค้นหาคนหายหรือสัตว์เลี้ยงนั้นทำได้ง่ายมากกับการใช้งานกล้องอินฟาเรดจับความร้อนรุ่นนี้ สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างนึงคือตัวกล้องนั้น “กันน้ำ” อย่างจริงจัง หมายถึงกล้องรุ่นนี้สามารถทนน้ำทนฝนมากๆ สามารถใช้ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ซึ่งนี่เป็นจุดดีมากๆของกล้องรุ่นนี้โดยกล้องอินฟาเรดส่องกลางคืนไม่มีรุ่นที่กันน้ำได้แบบนี้เลย จึงทำให้กล้องอินฟาเรดรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ยอดนิยมในปี 2565 เลยทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจาก Sport Camera

Leave a Comment