ในปัจจุบันได้มีการพัฒนากล้องอินฟาเรดไปไกลจนถึงขั้นนำไปถ่ายภาพดวงดาวบนท้องฟาด้วยการติดกล้องอินฟาเรดไปที่ยานอวกาศและถ่ายภาพในช่วงคลื่นอินฟาเรด

สำหรับผู้ที่กำลังมองหากล้องส่องทางไกลประจำตัวซักชิ้น อยากได้แบบที่มีคุณภาพสูง ไม่ต้องซื้อเปลี่ยนบ่อยๆ แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะเลือกกล้องส่องทางไกลยี่ห้อไหนดี

สวัสดีครับ บทความรู้นี้จะมีอธิบายการเลือกกล้องส่องทางไกลให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งการใช้งานส่องทางไกลแต่ละคนไม่น่าจะเหมือนกันนะครับ บางท่านชอบดูนก ดูสัตว์ บางท่านชอบดูวิวภูเขา หรือบางกิจกรรม เช่น ล่าสัตว์ ดูรังต่อ รังผึ้งเพื่อการค้าขาย หรือแม้กระทั่งส่องเป้าปืน ซึ่งกล้องส่องทางไกลแต่ละชนิดก็แบ่งวิธีใช้งานไว้หลากหลาย วันนี้เราจะมาดูกันว่ากิจกรรมไหนเหมาะกับกล้องแบบไหนบ้างครับ กิจกรรมดูนก ควรเลือกกล้องส่องทางไกลที่มีความคมชัดสูง สำหรับคนที่พึ่งหัดดูนกเป็นครั้งแรกก็ควรใช้กล้องส่องทางไกลที่เป็นแบบสองตาแบบพกพาสะดวกสบาย เพราะว่าเป็นกล้องที่ใช้งานง่าย ปรับโฟกัสง่ายและก็พกพาง่ายด้วย จะใช้งานเฉพาะระยะใกล้ๆ 10-1000 เมรเท่านั้นครับ แต่ถ้าหากต้องการดูนกที่ระยะไกลก็ควรเลือกกล้องส่องทางไกลตาเดียวแบบมีขาตั้งกล้องด้วยเพื่อความนิ่งของภาพ กิจกรรมท่องเที่ยว ดูวิวทั่วไป ควรเลือกกล้องส่องทางไกลแบบพกพาขนาดกระชับมือ ควรเลือกที่แบบปรับซูมได้ เพราะจะได้ดูวิวได้ทุกซอกทุกมุม และยังสามารถไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆได้ง่ายอีกด้วย และควรจะเป็นกล้องที่สามารถกันน้ำได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานกล้องส่องทางไกลด้วย กิจกรรมล่าสัตว์ หากคุณต้องการล่าสัตว์ และอยากใช้กล้องส่องทางไกลเป็นตัวช่วย มันก็มีหลายแบบการใช้งานนะครับ อย่างเช่นเป็นกล้องส่องทางไกลแบบอินฟราเรด ที่มีเรดดอทในตัว กล้องส่องทางไกลพวกนี้จะเน้นเอามาล่าสัตว์ นำกล้องไปติดกับปืนแล้วส่องสัตว์ที่เรามองเป็นเป้าหมาย กิจกรรมดูรังต่อ ส่วนใหญ่คนดูรังต่อจะมีอยู่ไม่กี่เหตุผล สำหรับผมคงจะดูรังต่อสำหรับป้องกันตัวเองมากกว่า ดูอยู่ไกลๆไม่เข้าไปใกล้แน่นอนครับ แต่สำหรับคนที่ล่ารังต่อไปขายแล้ว คงจะต้องดูว่าเอากล้องส่องทางไกลแบบไหนดี แนะนำเป็นกล้องส่องทางไกลแบบสองตาที่สามารถปรับซูมได้ตั้งแต่ 10 – 60 เท่าได้ยิ่งดีครับ เพราะว่าจะได้ดูรายละเอียดพื้นที่รอบข้างได้ละเอียดด้วย กิจกรรมยิงปืน สำหรับกิจกรรมยิงปืนกล้องส่องทางไกลตาเดียวเป็นที่นิยมมากในหมู่คนยิงปืนนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นการยิงเป้าปืน หรืออื่นๆContinue reading “เทคนิคการเลือกกล้องส่องทางไกลปี 2565”

สำหรับคนที่มีกล้องส่องทางไกลอยู่แล้ว แต่มีข้อสงสัยว่าทำไมข้างกล่องกล้องส่องทางไกลว่าห้ามใช้ดูดวงอาทิตย์ การใช้กล้องและเลนส์รวมแสงจากดวงอาทิตย์มาที่ตาของมนุษย์จะทำให้ตาบอดได้ครับหากใครเคยลองส่องดวงอาทิตย์ด้วยกล้องส่องทางไกลแล้วยังรอดมาได้ถือว่าโชคดีมากนะครับ เพราะว่าผมเคยเอากล้องดูดาวส่องดวงอาทิตย์โดยใช้มือถือต่อกับเลนส์ตาเพื่อดูดวงอาทิตย์ ผลที่ได้มาคือกล้องมือถือละลายเลย ไม่สามารถใช้งานกล้องมือถือได้อีกเลย แต่ตัวกล้องดูดาวไม่เป็นไรนะครับ นี่คือการแสดงให้เห็นว่าดวงอาทิตย์นั้นอันตรายขนาดไหน แต่ก็จะมีบางเวลาที่เราสามารถใช้กล้องส่องทางไกลส่องดวงอาทิตย์ได้เหมือนกัน เช่น ดวงอาทิตย์ยามเช้า ที่เรามองดวงอาทิตย์เป็นสีส้มๆนั่นแหละ สามารถใช้กล้องส่องทางไกลดูได้ ส่วนใหญ่จะเห็นแบบนั้นก็ต้องอยู่บนภูเขาที่มีอากาศที่สดใส ฉนั้นการใช้กล้องส่องทางไกลดูดวงอาทิตย์นั้นค่อนข้างอันตรายครับ หากไม่มีความรู้ก็ไม่ควรลองไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม กล้องส่องทางไกลจะเหมาะกับการส่องดูดวงจันทร์หรือกลุ่มดาวมากกว่า เพราะไม่มีอันตรายกับสายตาและสามารถส่องได้ดี กล้องส่องทางไกลที่ส่องดวงดาวได้ดีก็ควรมีหน้าเลนส์ที่กว้างประมาณ 42 มิลลิเมตรเป็นต้นไป เพื่อการรับแสงที่ดี เพราะว่าดวงดาวบนท้องฟ้าเวลากลางคืนนั้นจะมีแสงสว่างน้อย จึงควีใช้กล้องส่องทางไกลที่รวมแสงได้ดี ผมเคยใช้กล้องส่องทางไกลส่องกระจุกดาวลูกไก่ ปกติแล้วเราก็เห็นดาวเพียงแค่ 7 -10 ดวงเท่านั้น แต่เมื่อเอากล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายแค่ 10 เท่า เราก็จะสามารถเห็นกระจุกดาวลูกไก่ที่ตาเปล่าเราไม่เห็นอีกเป็นร้อยดวงเลยครับ น่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษสำหรับคนชอบดูดาว ดังนั้นผู้ที่มีกล้องส่องทางไกล กล้องดูนก อยู่ในมือ อย่าลืมเอากล้องส่องทางไกลส่องดวงดาวที่เราไม่เคยเห็นด้วยนะครับ กิจกรรมของกล้องส่องทางไกล และกล้องดูนก ไม่ได้จบแค่ดูแค่นั้น เรายังสามารถเอาไปส่องอย่างอื่นได้อีกด้วย ยิ่งถ้าคนที่มีกล้องส่องทางไกลตาเดียวขนาดเลนส์ใหญ่เกิน 80 มิลลิเมตร ก็ยิ่งไม่ควรหยุดแค่การดูนกนะครับ เพราะถ้ามีกล้องขนาดนั้นคุณจะสามารถเห็นวงแหวนดาวเสาร์ และดาวพฤหัสได้เลยนะครับ ส่วนคนไหนที่แวะเข้ามาอ่านแล้วไม่รู้จะเลือกกล้องส่องทางไกลยี่ห้อไหนดีก็สามารถติดต่อกันหลังไมค์หรือเม้นในบทความนี้ได้เลยนะครับ แต่คนที่มีกล้องแล้ว ก็ส่องได้ทุกอย่างนะครับ ยกเว้น ดวงอาทิตย์นะครับ

ในบทความรู้นี้จะมาอธิบายว่าพฤติกรรมการใช้กล้องส่องทางไกลแบบไหนที่เสี่ยงจะทำให้กล้องส่องทางไกลตัวโปรดของคุณเสื่อมสภาพได้เร็ว และอาจจะถึงขั้นต้องซื้อกล้องส่องทางไกลตัวใหม่ได้เลย ใช้งานกล้องส่องทางไกลโดยไม่เก็บในที่ร่มและแห้ง หากคุณใช้งนกล้องส่องทางไกลเรียนร้อยแล้ว แต่ก็ลืมเก็บกล้องส่องทางไกลเข้าบ้านหรือที่พัก แบบนี้จะทำให้กล้องส่องทางไกลของคุณเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นมาก เพราะว่า น้ำค้างในตอนกลางคืนอาจเกาะเลนส์ และที่แย่ที่สุดคือเกาะเลนส์ข้างในด้วย ปกติแล้วกล้องส่องทางไกลในยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีกันน้ำมาให้ด้วย แต่ถ้าหากคุณซื้อกล้องส่องทางไกลราคาถูกไร้คุณภาพ การลืมเก็บกล้องเพียงครั้งเดียว อาจทำให้กล้องคุณพังได้เลย เอานิ้วจิ้มหน้าเลนส์หรือเลนส์ตาบ่อยๆ เรื่องการเอานิ้วไปจิ้มนี่ผมว่าอาจจะไม่ได้ตั้งใจ เราอาจจะเห็นฝุ่นเกาะเลนส์ หรือ มีอะไรเกาะเลนส์ของกล้องส่องทางไกล จึงทำให้เราซนมากถึงขั้นเอานิ้วไปถูๆเพื่อให้ฝุ่นออกจากเลนส์ การทำแบบนี้จะทำให้สารเคลือบเลนส์กล้องของคุณเสีย และอาจทำให้ใช้งานไม่ได้อีกเลย เช็ดเลนส์กล้องส่องทางไกลด้วยแอลกอฮอล์ ห้ามทำแบบนั้นโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เลนส์ของคุณเสียหายไปได้เลย หากคุณทำแบบนั้นไปแล้ว คุณจะเห็นว่าคุณไม่ได้กำลังทำความสะอาดกล้องส่องทางไกล แต่คุณกำลังทำลายกล้องส่องทางไกลของคุณครับ เก็บกล้องส่องทางไกลในที่ชื้น สำหรับผู้ที่พยายามเก็บรักษากล้องส่องทางไกลแล้ว แต่ทำไมกล้องส่องทางไกลถึงเสีย นั่นอาจะเป็นเพราะว่าคุณเก็บรักษาในที่ที่ชื้น การเก็บกล้องในที่ชื้นๆ จะทำให้เชื้อราเข้าไปเกาะด้านในกล้องส่องทางไกลได้ และถ้าเชื้อราไปเกาะด้านในกล้องแล้ว ก็อย่าหวังว่ากล้องจะใช้งานได้อีกเลย ยังมีอีกหลายเหตุผลที่จะทำให้กล้องส่องทางไกลของคุณเสื่อมสภาพเร็ว มีผู้ที่ต้องการซ่อมกล้องส่องทางไกลติดต่อเข้ามาที่บริษัทเราเยอะครับ แต่…คุณเชื่อมั้ยว่ายังไม่มีลูกค้าที่ซื้อกล้องส่องทางไกลของจากบริษัทของเราไป ไม่ว่าจะเป็นกล้องส่องทางไกลตาเดียว กล้องดูนก หรือกล้องดูดาว แม้แต่คนเดียวมาติดต่อซ่อมกล้องส่องทางไกล เป็นที่ทราบกันดีว่าสินค้าประเภทกล้อง ไม่ว่าจะเป็นกล้องรูปแบบไหน ทางผู้จัดจำหน่ายจะไม่มีการรับประกันตัวเลนส์หากผู้ใช้ทำตกแตก ฉนั้นหากคุณทำตกแตกไม่มีร้านไหนรับประกันแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นโอลิมปัส หรือนิคอน ที่มีราคาสูงๆก็ไม่รับประกันเลนส์แตก ดังนั้นเวลาเลือกกล้องส่องทางไกล คุณควรเลือกกล้องส่องทางไกลที่มีคุณสมบัติการอัดในโตรเจนไว้ด้านในกล้องส่องทางไกลเพื่อกันน้ำเข้าและเชื้อราเข้า การลืมเก็บ หรือเก็บกล้องส่องทางไกลไว้ผิดที่ผิดเวลาก็จะทำให้ความเสียหายของกล้องลดน้อยลงหรือไม่มีอีกเลยครับ

“กล้องส่องทางไกลที่เหมาะกับการใช้ขาตั้งกล้องจะต้องเป็นกล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายสูง” เป็นคำพูดที่นักเล่นกล้องจะทราบดีว่าหากกล้องอะไรก็ตามที่สามารถขยายภาพได้มากเวลาถ่ายภาพจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถ่ายภาพให้ชัดนิ่งได้จริงๆ ส่วนใหญ่คำตอบของปัญหานี้คือหาขาตั้งกล้องดีๆ รับน้ำหนักได้มาก และสามารถทำให้กล้องนิ่งได้ดีที่สุดมาใช้งานก็แค่นั้นเอง การจะใช้ขาตั้งกล้องกับกล้องส่องทางไกล คนที่ต้องการแบบนั้นก็คือคนที่ต้องการความนิ่งของภาพ หรือ มีความต้องการที่จะถ่ายภาพ นิ่งๆ ชัดๆ อย่างเช่น กล้องเทเลสโคป กล้องดูนก กล้องดูดาว ส่วนใหญ่จะเป็นกล้องส่องทางไกลตาเดียวที่มีขนาดปานกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เพราะมันเป็นเรื่องของน้ำหนักที่มากผู้ใช้ไม่สามารถที่จะใช้มือเป็นขาตั้งกล้องได้ หากให้เปรียบเทียบเหมือนการใช้กรวยขวางถนนมาใช้เป็นกล้องส่องทางไกล ลองดูสิครับว่ามันหนักแค่ไหน นี่ยังไม่พูดถึงภาพอีกที่ต้องเสริมด้วยขาตั้งกล้อง ส่วนใหญ่แล้วกล้องดูดาวมักจะมีขาตั้งกล้องที่แถมมากับตัวกล้องอยู่แล้ว แต่สำหรับกล้องส่องทางไกล หรือ กล้องดูนก ส่วนใหญ่จะไม่มีขาตั้งกล้องแถมมาให้ด้วย ยิ่งด้วยตัวกล้องส่องทางไกลแบบสองตานั้นยิ่งหาตัวอแดปเตอร์เชื่อมต่อกับขาตั้งกล้องยาก บางรุ่นของกล้องส่องทางไกลสองตาไม่สามารถเชื่อมต่อขาตั้งกล้องได้เลยด้วย มักจะเป็นกล้องส่องทางไกลสองตาแบบพกพาขนาดเล็กๆ เหตุผลเพราะว่ากล้องส่องทางไกลขนาดเล็กมักจะมากับกำลังขยายที่ต่ำ และกล้องส่องทางไกลกำลังขยายต่ำและขนาดเล็กนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง เพราะพวกนี้เค้าเน้นพกพาเดินใช้งานกล้อง พวกนี้ควรมองเรื่องความทนทาน การกันน้ำเข้าเลนส์ พวกนี้จะมีความสำคัญกับกล้องส่องทางไกล ส่วนกล้องดูนก ส่วนใหญ่จะไม่มีขาตั้งกล้องให้ในกล่อง ก็ควรดูน้ำหนักของกล้องดูนกของเราว่าน้ำหนักเท่าไรเพื่อจะได้รู้ว่าควรจะเลือกขาตั้งกล้องที่รองรับน้ำหนักให้ได้ตามกล้องที่เรามี เพราะหากกล้องดูนกของเรามีน้ำหนักมาก แต่เราดันไปซื้อขาตั้งกล้องที่มีราคาถูกรองรับน้ำหนักได้ไม่มาก อาจทำให้ขาตั้งกล้องของเราตกแตกได้ อาจเกิดอันตรายที่คุณไม่คาดคิดได้ คนที่มีกล้องดูนกผมว่าทราบดีทุกคนว่า กล้องประเภทนี้หากทำเลนส์แตก หรือยับเยินไป ไม่มีค่ายไหนหรอกครับที่จะมีรับประกันให้คุณ นอกจากจะซื้อประกันเพิ่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็มีเพียงแค่ในยี่ห้อมือถือ และ ยี่ห้อกล้องที่เป็นแบบกล้องกีฬา

กลับมาอีกครั้งกับบทความรู้เรื่องเลนส์กล้องส่องทางไกล กล้องส่องทางไกลนั้นมีหลายแบบบนะครับ มีแบบกล้องส่องทางไกลสองตา กล้องส่องทางไกลตาเดียว กล้องส่องทางไกลทหาร กล้องส่องทางไกลวัดระยะ กล้องที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเรื่องการใช้งานก็แตกต่างกันอย่างมาก อย่างเช่น กล้องส่องทางไกลสองตานั้นเน้นพกพา ส่วนกล้องส่องทางไกลตาเดียวแบบมีขาตั้งนั้นเน้นกำลังขยาย กล้องส่องทางไกลวัดระยะก็จะใช้เรื่องตัวเลขระยะห่าง ฉนั้นการจะเลือกกล้องส่องทางไกลเราต้องดูเรื่องการใช้งานกันก่อน ส่วนในหัวข้อที่ว่า กล้องส่องทางไกลแบบสองตาควรจะต้องเลือกหน้าเลนส์ขนาดเท่าไหร่ดี เกริ่นนำก่อนกว่าเราจะเลือกหน่วยของเลนส์เป็นมิลลิเมตรนะครับ จะได้แยกขนาดกันเป็นตัวเลขที่ชัดเจน สำหรับกล้องส่องทางไกลแบบสองตาที่เน้นดูนก เชื่อว่าคนที่ซื้อกล้องดูนก ต้องคาดหวังกับสีสันที่ครบถ้วน สีไม่เพี้ยน และสามารถดูได้นานไม่ปวดตา ถ้าเน้นดูนกแบบนี้จะแนะนำให้เลือกหน้าเลนส์ของกล้องส่องทางไกลขนาด 30 มิลลิเมตรเป็นต้นไป แต่ไม่ควรเกิน 50 มิลลิเมตร เหตุเพราะว่าถ้าหน้าเลนส์ขนาดเกิน 50 มิลลิเมตร จะทำให้กล้องใหญ่เกินกว่าจะแบกไหว จริงๆแล้วถ้าหน้าเลนส์ 50 มิลลิเมตรเป็นต้นไปก็จะเป็นกล้องส่องทางไกลทหาร หรือ กล้องส่องทางไกลตาเดียวแบบมีขาตั้งกล้องครับ สำหรับคนที่อยากได้กล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก แบบพกพาสะดวกสบาย ไม่เปลืองเนื้อที่การเก็บ ก็ควรเลือกที่มีหน้าเลนส์ขนาด 20 มิลลิเมตร ถึง 30 มิลลิเมตร เท่านั้น เพราะว่าหากขนาดเลนส์เกินไปกว่านี้จะทำให้พกพาไม่สะดวก กล้องส่องทางไกลขนาดเล็กนี้ส่วนใหญ่จะกำลังขยายไม่เกิน 10 เท่าครับ หากเกินกว่านี้การใช้งานจริงจะลำบากเพราะภาพจะสั่น ทำให้ใช้งานไม่สะดวกมองไม่เห็นรายละเอียด ปวดหัว ปวดตา เอาง่ายๆครับContinue reading “กล้องส่องทางไกลแบบสองตาต้องเลือกหน้าเลนส์ขนาดเท่าไรจึงจะดี?”

ในบทความนี้จะใขข้อสงสัยให้กับนักดูดาวมือสมัครเล่นให้เข้าใจกันครับ